หลายคนมักสงสัยว่าเราต้องล้างแอร์ทุกกี่เดือนถึงจะเหมาะสมที่สุด ทั้งสำหรับบ้าน คอนโด หรือออฟฟิศ ซึ่งจริง ๆ แล้วรอบล้างแอร์ไม่ได้ตายตัวแต่ขึ้นอยู่กับการใช้งาน สภาพแวดล้อม และอายุของเครื่องปรับอากาศด้วย แต่อย่างไรก็ตามมาตรฐานที่ช่างแอร์มืออาชีพรวมถึงทีมช่างของ NBC Group แนะนำคือการล้างแอร์ทุก 3 เดือน หรือทุก 6 เดือน ตามรูปแบบการใช้งาน หากต้องการให้แอร์ของคุณเย็นเร็ว ไม่กินไฟ และไม่มีกลิ่นอับ การล้างแอร์ให้ตรงรอบถือเป็นกุญแจสำคัญที่คนหลายบ้านมักมองข้าม และนี่คือเหตุผลแบบเจาะลึกที่คุณควรล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ

ควรล้างแอร์ทุกกี่เดือนเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับคำถามที่ว่าล้างแอร์ทุกกี่เดือนเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเราต้องพิจารณาจากรูปแบบการใช้งานจริงของแต่ละบ้านและแต่ละพื้นที่ เพราะแอร์ทำงานหนักไม่เท่ากัน เพื่อให้เข้าใจง่าย NBC Group สรุปรอบล้างแอร์ที่เหมาะสมไว้ดังนี้

  • เปิดแอร์ทุกวัน หลายชั่วโมงต่อวัน ควรล้างแอร์ทุก 3 เดือน
    เพราะมีฝุ่นสะสมเร็ว แผงคอยล์สกปรกง่าย และความชื้นสะสมมาก

  • เปิดแอร์วันละ 4-6 ชั่วโมง ควรล้างแอร์ทุก 4-6 เดือน
    เหมาะสำหรับบ้านทั่วไปหรือห้องที่ใช้งานปกติ

  • ใช้งานน้อย เช่น บ้านที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ ควรล้างแอร์ทุก 6-12 เดือน
    แต่ไม่ควรเกิน 1 ปีเด็ดขาด เพราะความชื้นอาจทำให้เกิดเชื้อราได้

  • บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรือฝุ่นเยอะ ควรล้างแอร์ทุก 3 เดือน
    ขนสัตว์และฝุ่นละเอียดจะสะสมบนแผงคอยล์เร็วกว่าปกติ

  • คอนโดที่มีครัวในตัว ควรล้างแอร์ทุก 3-4 เดือน
    เพราะคราบน้ำมันในอากาศเกาะคอยล์ง่ายทำให้ระบายความร้อนไม่ดี

จะเห็นได้ว่าคำตอบของคำถามล้างแอร์ทุกกี่เดือนไม่สามารถตอบแบบเดียวได้ทั้งหมด แต่โดยรวมแล้วการล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอคือวิธีที่ดีที่สุดในการยืดอายุเครื่อง ป้องกันไม่ให้แอร์เสียก่อนเวลา และช่วยลดค่าไฟได้จริง

ล้างแอร์ทุก 3 เดือน ดีจริงไหม?

คำตอบคือดีมาก โดยเฉพาะบ้านที่เปิดแอร์ทุกวันหรือมีปัญหาฝุ่นเยอะ บริษัทรับล้างแอร์หลายรายรวมทั้งทีมช่าง NBC Group แนะนำว่าการล้างทุก 3 เดือนเป็นรอบที่ช่วยรักษาสมดุลระหว่างความสะอาดและค่าใช้จ่าย หากล้างถี่เกินไปก็ไม่จำเป็น แต่ถ้าล้างห่างเกินไปก็ทำให้เกิดปัญหาหนักตามมาได้

ล้างแอร์ทุก 6 เดือน เหมาะกับใครบ้าง?

การล้างทุก 6 เดือนถือเป็นมาตรฐานที่เหมาะสำหรับบ้านทั่วไปหรือครอบครัวที่ไม่ได้เปิดแอร์ตลอดทั้งวัน หากคุณใช้แอร์ในระดับปานกลางแผงคอยล์จะยังไม่สกปรกมาก และยังสามารถรักษาประสิทธิภาพการเย็นได้ดี แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้เกิน 6 เดือน เพราะอาจเริ่มมีคราบสะสมจนทำให้แอร์เริ่มไม่เย็นเหมือนเดิม

ล้างแอร์ไม่ตรงรอบจะมีผลเสียอะไรบ้าง?

หลายบ้านปล่อยให้แอร์ทำงานไปเรื่อย ๆ โดยไม่ล้าง เพราะคิดว่ายังใช้ได้อยู่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือระบบภายในกำลังสึกหรอและเสื่อมคุณภาพอย่างช้า ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว โดยปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมานั้นมีดังนี้

  • แอร์ไม่เย็น ลมเบา ใช้เวลานานกว่าจะเย็น
    เพราะฝุ่นและคราบสกปรกเกาะเต็มแผงคอยล์ ทำให้ระบายความร้อนไม่ดี

  • ค่าไฟสูงขึ้นแบบไม่รู้ตัว
    เพราะคอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อพยายามทำให้ห้องเย็น

  • มีกลิ่นอับเหม็นคล้ายห้องชื้นหรือผ้าเปียก
    เกิดจากเชื้อราในถาดน้ำทิ้งและโพรงพัดลม

  • น้ำหยดจากแอร์ หรือท่อน้ำทิ้งอุดตัน
    ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อแอร์ไม่ได้รับการดูแล

  • อายุการใช้งานของแอร์สั้นลง
    เพราะระบบภายในถูกใช้งานหนักเกินไปเป็นเวลานาน

สิ่งเหล่านี้ล้วนหลีกเลี่ยงได้ง่ายมากเพียงแค่ล้างแอร์ให้ตรงรอบเท่านั้น

ทำไมรอบล้างแอร์ถึงสำคัญกว่าที่คิด?

สิ่งที่คนส่วนใหญ่มองข้ามคือระบบแอร์เป็นระบบแลกเปลี่ยนความร้อน ถ้าคอยล์สกปรกแม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้ความสามารถในการดูดความร้อนลดลงทันที ส่งผลให้ทั้งพัดลม คอมเพรสเซอร์ และระบบไฟฟ้าทั้งหมดต้องทำงานหนักขึ้น การล้างแอร์จึงเป็นเหมือนการปรับสมดุลของระบบทำความเย็นให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในแอร์ยังมีความชื้นตลอดเวลาทำให้เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย หากไม่ล้างเลยก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดไรฝุ่น เชื้อรา และปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ

NBC Group ให้บริการรับล้างแอร์ รับซ่อมแอร์ และรับติดตั้งแอร์

NBC Group เป็นหนึ่งในบริษัทล้างแอร์ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ด้วยทีมช่างระดับวิศวกรที่เชี่ยวชาญทั้งระบบแอร์บ้าน คอนโด และแอร์อาคารขนาดใหญ่ จึงสามารถให้คำแนะนำรอบล้างแอร์ที่เหมาะสมตรงตามการใช้งานของบ้านคุณที่สุด